มือใหม่ต้องหมั่นทำความเข้าใจ ราคาบอลไหล

ราคาบอลไหล การแทงบอลออนไลน์ จะขึ้นอยู่กับประเภทของการแทงบอลออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบอลชุด บอลสเต็ป บอลสูง–ต่ำ หรือลูกเตะมุม เล่นง่ายได้เงินไว ความนิยมในการแทงบอลออนไลน์ จึงทำให้เกิดเว็บแทงบอลขึ้นตามมากมาย มีการแข่งขันที่สูงขึ้น เป็นผลดีให้นักพนันส่วนใหญ่ จากโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ นั่นเอง โดยหนึ่งในสิ่งสำคัญที่นักเดิมพัน โดยเฉพาะนักเดิมพันมือใหม่ ต้องทำความเข้าใจคือ การทำความรู้จักกับ “ราคาบอลไหล” เนื่องจากราคาบอลไหล เป็นราคาบอลที่ขึ้นอยู่กับตารางการแข่งขันในแมทช์นั่น ๆ ดังนั้น การที่นักเดิมพันทำความเข้าใจราคาบอลไหล จะทำให้ท่านมีโอกาสทำกำไรได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน 

แต่ก่อนอื่น อยากให้นักเดิมพันทำความเข้าใจก่อนว่าการแทงบอลออนไลน์ มีหลายรูปแบบ ท่านควรศึกษารูปแบบการแทงบอลก่อนเป็นอันดับแรก โดยรูปแบบการแทงบอลออนไลน์ที่นักเดิมพันต้องรู้ เริ่มจาก

1. แทงบอลเต็ง (การแทงบอลเดี่ยว) คือ การแทงบอล เพียง 1 คู่เท่านั้น หากทีมที่ผู้เล่นแทง เป็นฝ่ายชนะ นักเดิมพันก็จะได้รับเงิน ตามราคาต่อรองที่กำหนด ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นแทงทีม A ที่มีราคาต่อรอง 1.80 จำนวน 1,000 บาท แล้วทีมผู้เล่น เป็นฝ่ายชนะ ผู้เล่นจะได้เงิน 800 บาท ซึ่งหลักการคำนวน มีดังนี้ 1,000 x 1.80 = 1,800 โดยเมื่อทำการหักลบทุน 1,000 จะได้กำไรจากการแทงบอล 1,800 – 1,000 = 800 บาท แต่หากนักเดิมพันแพ้พนัน ก็จะเสีย 1,000 บาท ซึ่งการเล่นในแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ ที่มีโอกาสทายถูกถึง 50/50 เลยทีเดียว ส่วนเงินชนะพนัน ก็ขึ้นอยู่กับราคาต่อรองของทีมนั้น ๆ (ท่านควรตรวจราคาต่อรองที่โต๊ะพนันบอลก่อนทุกครั้ง)
2. แทงบอลสเต็ป (การแทงบอลชุด) คือ การแทงบอล มากกว่าหนึ่งคู่ คือ 2 คู่ขึ้นไป เงื่อนไขสำคัญของการแทงบอลสเต็ปคือ ทีมที่นักเดิมพันแทงนั้น จะต้องเข้าทุกคู่ กล่าวคือ ต้องชนะทุกคู่ที่แทง และหากเข้าทุกคู่ นักเดิมพัน จะได้เงินเพิ่มทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งได้ผลตอบแทนที่สูงมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นเลือกแทง 3 คู่ จำนวน 1,000 บาท ดังต่อไปนี้

   – คู่ที่ 1 ผู้เล่นแทงทีม A ราคาต่อรอง 1.80

   – คู่ที่ 2 ผู้เล่นแทงทีม B ราคาต่อรอง 1.90

   – คู่ที่ 3 ผู้เล่นแทงทีม C ราคาต่อรอง 2.00

ในการจ่ายเงินของการแทงบอลรูปแบบสเต็ป โดยหากทั้ง 3 ทีม ที่ผู้เล่นเลือกแทงชนะ ราคาต่อรองที่จะนำมาใช้คำนวณ คือ 1.80 x 1.90 x 2.00 = 6.84 ซึ่งเมื่อทำทุน 1,000 บาท มาคำนวณ นักเดิมพัน จะได้รับเงินกลับมา 1,000 x 6.48 = 6,840 บาท ดังนั้น การแทงบอลแบบสเต็ป จะได้เงินทวีคูณหลายเท่าตัวเลย ทั้งนี้ท่านจะต้องทำความเข้าใจกับราคาบอลไหล โดยในช่วงท้ายของบทความ เราได้แนะนำเรื่อง ราคาบอลไหล ไว้ด้วย 

3. แทงบอลหลายชุดแบบ สูง – ต่ำ คือ การทายผลรวมสกอร์ (การทำประตู) หลังจากจบการแข่งขัน ว่าจะมีผล เป็นสูงหรือต่ำกว่า ตามที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น เว็ปกำหนดอัตรา สูง – ต่ำ ของแมทนั้นอยู่ที่ 3 ลูก กรณีที่นักเดิมพันแทงต่ำ ผลรวมสกอร์ทั้งหมด จะต้องต่ำกว่า 3 ลูก กล่าวคือ ต้องไม่เกิน 2 ลูก ผู้เล่นถึงจะชนะการแทงบอล ในครั้งนั้น กรณีนักเดิมพันแทงสูง ผลรวมสกอร์ทั้งหมด จะต้องสูงกว่าหรือเท่ากับ 3 ลูก กล่าวคือ ต้องผลรวม 3 ลูกขึ้นไป นักเดิมพันถึงจะชนะการแทงบอล ในครั้งนั้น
4. การแทงบอล คู่ – คี่ คือ การแทงบอลที่คล้ายกับการแทงแบบ สูง – ต่ำ โดยการแทงแบบ คู่ – คี่ นี้ จะวัดผลจากสกอร์ หรือการทำประตู ว่าจะมีผลรวมทั้งหมด เป็นเลขคู่หรือเลขคี่ ดังนี้

   – กรณีแทงคู่ จะชนะการแทงบอล ก็ต่อเมื่อผลรวมของสกอร์ทั้งหมด รวมกันเป็นเลขคู่ เช่น 2, 4, 6, 8 ประตู เป็นต้น

   – กรณีแทงคี่ จะชนะการแทงบอล ก็ต่อเมื่อ ผลรวมของสกอร์ทั้งหมดรวมกัน เป็นเลขคี่ เช่น 1, 3, 5, 7 ประตู เป็นต้น

ทำความรู้จักกับราคาบอลไหล

คำศัพท์ที่สำคัญในการดูราคาบอลไหล ท่านต้องสังเกตจากอัตราการครองบอลต่าง ๆ ดังนี้  เริ่มจาก 

• อัตรา 0.25 หมายถึง ปป หรือเสมอควบครึ่ง โดยทีมต่อจะได้รับเงินเมื่อชนะมากกว่า 1 ลูก ถ้าเสมอจะเสียเงินเดิมพันครึ่งหนึ่ง ถ้าแพ้จะเสียเงินเต็มจำนวน ขณะที่ทีมรอง หากชนะได้เงินรางวัลเต็มจำนวน เสมอเสียครึ่งหนึ่ง หากแพ้มากกว่า 1 ลูก จะเสียเงินเต็มจำนวน
• อัตรา 0.5 หมายถึง ครึ่งลูก โดยทีมต่อ จะได้เงินก็ต่อเมื่อชนะมากกว่า 1 ลูก เสมอหรือแพ้ จะเสียเงินเต็มจำนวน ขณะที่ทีมรอง หากชนะและเสมอจะได้เงินรางวัลเต็มจำนวน หากแพ้ 1 ลูกขึ้นไป จะเสียเงินเต็มจำนวน
• อัตรา 0.75 หมายถึง ครึ่งควบลูก หากทีมต่อชนะ จะได้รับเงินเมื่อชนะมากกว่า 1 ลูก แต่ได้เพียงครึ่งเดียว จากจำนวนเงินเดิมพัน หากเสมอหรือแพ้ จะเสียเงินเต็มจำนวน ส่วนทีมรอง หากชนะและเสมอจะได้เงินเต็มจำนวน ถ้าแพ้ 1 ลูกเสียครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน หากแพ้ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป จะเสียเต็มจำนวน
• อัตรา 1.0 หมายถึง หนึ่งลูก ซึ่งทีมต่อ จะได้เงินก็ต่อเมื่อชนะมากกว่า 2 ลูก หากชนะเพียงแค่ลูกเดียว ถือว่าเสมอ ไม่ได้ไม่เสีย และถ้าแพ้ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป จะเสียเงินเต็มจำนวน ขณะที่ทีมรอง ถ้าชนะจะได้เงินรางวัลเต็มจำนวน เสมอเองก็เช่นกัน แพ้ 1 ลูกรับเพียงครึ่งเดียว แพ้ ตั้งแต่ 25 ลูกขึ้นไปเสียเงินเดิมพัน
• อัตรา 1.25 หมายถึง ลูกควบครึ่ง สำหรับทีมต่อ หมายความว่า ถ้าชนะตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป จะได้เงินรางวัล ส่วนชนะ 1 ลูก เสียเงินรางวัลครึ่งหนึ่ง เสมอหรือแพ้ เสียเงินเต็มจำนวน ส่วนทีมรองคือ ถ้าชนะจะได้เงินรางวัลเต็มจำนวน หากแพ้ 1 ลูก จะได้ครึ่งหนึ่ง ส่วนถ้าแพ้ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป จะเสียเต็มจำนวน 
• อัตรา 1.50 เท่ากับลูกครึ่ง ซึ่งถ้าเป็นทีมต่อ ต้องชนะตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป จึงจะได้รับเงินรางวัล ถ้าชนะเพียง 1 ลูก หรือเสมอ หรือแพ้ จะเสียเงินเต็มจำนวน ส่วนทีมรอง ถ้าชนะจะได้เงินเต็มจำนวน หากแพ้ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป จะเสียเงินเต็มจำนวน

ราคาน้ำบอลของแต่ละประเทศ

นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ท่านต้องทำความเข้าใจควบคู่ไปกับราคาบอลไหล คือ ราคาน้ำบอลในแต่ละโซน แต่ละประเทศก็แตกต่างกัน ซึ่งที่นิยมใช้อ้างอิงจะมีไม่กี่แบบ และมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ดังต่อไปนี้

1. ราคาค่าน้ำมาเลย์ (MY) จะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ราคาน้ำดำ และราคาน้ำแดง
         –    ราคาน้ำดำ คือ ราคาน้ำติดบวก เวลาได้เงินจะคิดตามราคาค่าน้ำ และเวลาเสีย ก็จะเสียตามทุนที่แทง

• ราคาน้ำแดง คือ ราคาน้ำติดลบ เวลาได้เงิน ก็จะได้เงินเต็มจำนวนที่แทง และเวลาเสียก็จะเสียตามราคาน้ำ
• ราคาค่าน้ำฮ่องกง (HK) จะคิดตามราคาค่าน้ำ และเวลาเสีย ก็จะเสียตามทุนที่แทง
• ราคาค่าน้ำยุโรป (EU) เรียกอีกอย่างว่าราคาบอลแบบทศนิยม โดยจะมีเลข 1 นำหน้า และตามด้วยจุดทศนิยม เวลาได้เงิน จะคิดตามราคาค่าน้ำ และเวลาเสียก็จะเสียตามทุนแทง

ดังนั้น สำหรับนักเดิมพัน ที่สนใจแทงบอลกับเรา หลังจากได้เรียนรู้การศึกษาราคาบอลไหลเบื้องต้นแล้ว

โดยเฉพาะนักเดิมพันหน้าใหม่ ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก ท่านสามารถสมัครสมาชิก เพียงขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. เข้าไป สมัคร ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา
2. จากนั้นให้ท่าน กดที่คำว่า สมัครสมาชิก ได้เลยทันที
3. กรอกข้อมูล ตามแบบฟอร์มที่เรามีให้ อย่างครบถ้วน
4. รอ call center ทำรายการไม่เกิน 1 นาที ท่านจะได้รับ user ทันที

เพียงขั้นตอนง่าย ๆ แค่นี้ ก็ถือว่าท่าน สมัครสมาชิก เสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าจะ ฝาก ถอน หรือมีปัญหาใด ๆ ท่านสามารถแจ้ง call center ได้ตลอด 24 ชั่วโมง